Last updated: 24 ก.ย. 2565 | 1149 จำนวนผู้เข้าชม |
วันที่ 7 กันยายน 2565 นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมด้วย นายภัสชญภณ หมื่นแจ้ง และนายสมบัติ ตงเต๊า รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร ร่วมประชุม Online กับ ผู้แทนผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร อัครราชทูต ฝ่ายการเกษตรประจำกรุงปักกิ่ง กงสุลเกษตร นครกวางโจว และนครเซี่ยงไฮ้ ติดตามกระบวนงานการส่งออกทุเรียน และผลไม้ไทย สู่จีน เพื่อรักษาความเชื่อมั่น คุณภาพมาตรฐาน ตามพิธีสารไทย-จีน ขยายมูลค่าเศรษฐกิจ 2 ประเทศ
อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านมนัญญา ไทยเศรษฐ์ ที่ได้เน้นย้ำ คุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารไทย และการปฏิบัติตามข้อตกลงพิธีสารว่าด้วยข้อกําหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนําเข้าผลไม้ไทยผ่านประเทศที่สามเข้าสู่สาธารณรัฐประชาชนจีน ผู้ประสงค์นําเข้าและส่งออกผลไม้สดระหว่างไทยและจีน ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด รายการชนิดของผลไม้สดที่อนุญาตให้นําเข้าและส่งออกเป็นไปตามที่ทั้งสองฝ่ายกำหนดโดยผลไม้ไทยจำนวน 22 ชนิด และผลไม้จีน จำนวน 23 ชนิด อาทิ ทุเรียน ลำไย ลิ้นจี่ มังคุด มะม่วง ชมพู่ กล้วย มะพร้าว สับปะรด ขนุน เงาะ ส้มโอ เป็นต้น
โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งมีการส่งออกไปจีน แล้วมากกว่า 7 แสนตัน มีมูลค่ามากกว่า 72,000 ล้านบาท และเพื่อส่งเสริมการส่งออกทุเรียนและผลไม้ไทยที่ดีและมีคุณภาพ พร้อมทั้ง ป้องกันไม่ให้มีการส่งออกทุเรียนและผลไม้ผลสดมีการปนเปื้อนแมลงศัตรูพืชและคุณภาพต่ำไม่ถึงเกณฑ์ตามข้อกำหนด อธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช ทั้งทางบก อากาศ และทะเล เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพทุเรียนและผลไม้ทั้งระบบ และมอบหมายให้สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 1-8 ร่วมตรวจสอบย้อนกลับกระบวนงาน ตรวจคุณภาพ ถิ่นกำเนิด และการปนเปื้อนแมลงศัตรูพืช ตาม พรบ.กักพืชฯ กำหนด และพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับให้ผ่านระบบ e-phyto รวมถึงให้ทวนสอบแปลง GAP และ GMP ที่รับรองโรงคัดบรรจุ และผู้ส่งออก เพื่อเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการต่างๆ ให้ทุเรียนและผลไม้ไทยมีคุณภาพดีที่สุดของโลก ดังนี้
1. สวนทุเรียนและ/หรือสวนผลไม้ต้องได้รับขึ้นทะเบียน (GAP) และโรงคัดบรรจุหรือล้ง (GMP) จากทั้งฝ่ายไทยและศุลกากรจีน และศุลกากรจีนได้ประกาศรับรองเลขทะเบียนพร้อมแล้ว
ที่มา : https://www.doa.go.th/